บทความทั้งหมด

สุขภาพทั่วไป
โรคอ้วน : ภัยเงียบที่ไม่ควรมองข้าม
โรคอ้วน (Obesity)
โรคอ้วน ไม่ใช่เพียงแค่ภาวะที่น้ำหนักเกินมาตรฐาน แต่เป็นปัญหาสุขภาพเรื้อรังที่เกิดจากการสะสมของไขมันในร่างกายมากผิดปกติ ซึ่งนำไปสู่ความเสี่ยงของโรคต่าง ๆ ทั้งทางร่างกายและจิตใจ ปัจจุบันองค์การอนามัยโลก (WHO) จัดให้โรคอ้วนเป็นหนึ่งในปัจจัยเสี่ยงสำคัญของการเสียชีวิตก่อนวัยอันควร
ความหมายของโรคอ้วน
โรคอ้วนหมายถึงภาวะที่มีไขมันในร่างกายสะสมมากเกินไปจนส่งผลกระทบต่อสุขภาพ การวัดว่าใครเป็นโรคอ้วนหรือไม่ มักใช้ “ค่าดัชนีมวลกาย (BMI)” ซึ่งคำนวณจาก:
BMI = น้ำหนักตัว (กิโลกรัม) ÷ ส่วนสูง (เมตร)²
เกณฑ์การวินิจฉัยโรคอ้วนในผู้ใหญ่ (สำหรับคนไทย)
สาเหตุของโรคอ้วน
โรคอ้วนเกิดจากหลายปัจจัยที่เกี่ยวข้องกัน ทั้งด้านร่างกาย จิตใจ พฤติกรรม และสิ่งแวดล้อม ดังนี้:
1. พฤติกรรมการบริโภค
- บริโภคอาหารพลังงานสูง เช่น ของทอด อาหารจานด่วน ขนมหวาน น้ำหวาน
- กินมากเกินกว่าที่ร่างกายต้องการ
- การกินอาหารเร็วเกินไป ทำให้รู้สึกอิ่มช้า
2. ขาดการออกกำลังกาย
- พฤติกรรมอยู่กับที่ เช่น นั่งทำงานทั้งวัน เล่นโทรศัพท์หรือดูทีวีนาน
- ไม่มีกิจกรรมที่เผาผลาญพลังงานอย่างสม่ำเสมอ
3. พันธุกรรมและการเผาผลาญ
- พันธุกรรมส่งผลต่อระบบเผาผลาญและการสะสมไขมัน
- บางคนอาจเผาผลาญช้ากว่าปกติ แม้กินไม่มากก็อ้วนง่าย
4. ภาวะฮอร์โมนผิดปกติ
- เช่น ภาวะไทรอยด์ทำงานต่ำ (Hypothyroidism), ภาวะถุงน้ำรังไข่หลายใบ (PCOS)
- ฮอร์โมนบางชนิดควบคุมความหิว ความอิ่ม เช่น เลปติน และเกรลิน
5. จิตใจและพฤติกรรม
- เครียด วิตกกังวล หรือซึมเศร้า อาจทำให้ “กินเพื่อระบายอารมณ์”
- การนอนหลับไม่เพียงพอ ส่งผลต่อฮอร์โมนควบคุมความหิว
6. สิ่งแวดล้อม
- อยู่ในสังคมที่เอื้อต่อพฤติกรรมเนือยนิ่ง
- มีอาหารฟาสต์ฟู้ดขายมาก และเข้าถึงได้ง่าย
ภัยร้ายจากโรคอ้วน
โรคอ้วนเพิ่มความเสี่ยงของโรคร้ายหลายชนิด ซึ่งหลายโรคอาจรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้:
1. โรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs)
- เบาหวานชนิดที่ 2
- ความดันโลหิตสูง
- ไขมันในเลือดสูง
- โรคหัวใจขาดเลือด
- โรคหลอดเลือดสมอง
2. โรคกล้ามเนื้อและข้อ
- ข้อเข่าเสื่อม
- ปวดหลังเรื้อรัง
- ภาวะหมอนรองกระดูกเสื่อม
3. ปัญหาเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ
- ภาวะหยุดหายใจขณะหลับ (Obstructive Sleep Apnea)
- หายใจติดขัดง่าย ขณะนอนหรือนอนกรนเสียงดัง
4. มะเร็งบางชนิด
- มะเร็งเต้านม
- มะเร็งลำไส้ใหญ่
- มะเร็งตับ
- มะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูก
5. ปัญหาทางจิตใจ
- ภาวะซึมเศร้า ความวิตกกังวล
- การสูญเสียความมั่นใจในตนเอง
- ถูกตีตราในสังคม (Stigma)
แนวทางการรักษาโรคอ้วน
การรักษาขึ้นอยู่กับระดับความรุนแรงของโรคอ้วน และปัจจัยร่วมอื่น ๆ เป้าหมายคือการลดน้ำหนักอย่างยั่งยืน โดยมีแนวทางหลัก ๆ ดังนี้:
1. การปรับพฤติกรรม
- ควบคุมปริมาณและประเภทของอาหาร
- กินช้า เคี้ยวให้ละเอียด
- หลีกเลี่ยงการกินตามอารมณ์
- จดบันทึกการกินและน้ำหนัก
2. การออกกำลังกาย
- เดินเร็ว วิ่ง ว่ายน้ำ ปั่นจักรยาน หรือกิจกรรมอื่นที่เพิ่มอัตราการเต้นของหัวใจ
- ควรทำอย่างน้อย 150-300 นาที/สัปดาห์
- ควบคู่กับการฝึกกล้ามเนื้อ 2 วัน/สัปดาห์
3. การใช้ยา
ในกรณีที่ BMI ≥ 27 และมีโรคร่วม หรือ BMI ≥ 30 อาจพิจารณาใช้ยาลดน้ำหนักร่วมกับการปรับพฤติกรรม โดยต้องอยู่ในการดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด เช่น
- ยากลุ่ม Orlistat (ลดการดูดซึมไขมัน)
- ยากลุ่ม GLP-1 agonist (ลดความอยากอาหาร)
4. การผ่าตัดลดน้ำหนัก (Bariatric Surgery)
ใช้ในกรณีที่:
- BMI ≥ 40 หรือ
- BMI ≥ 35 ร่วมกับโรคที่ควบคุมยาก เช่น เบาหวาน ความดัน
เช่น การตัดกระเพาะบางส่วน (Sleeve Gastrectomy) หรือการทำ Bypass
การป้องกันโรคอ้วน
“การป้องกันย่อมดีกว่าการรักษา” โดยเฉพาะในเด็กและวัยรุ่นที่มีแนวโน้มอ้วนตั้งแต่เล็ก ควรดูแลสุขภาพตั้งแต่เนิ่น ๆ ดังนี้:
- ปลูกฝังนิสัยกินอาหารสุขภาพตั้งแต่วัยเด็ก
- สนับสนุนให้มีกิจกรรมทางกาย
- จำกัดเวลาใช้หน้าจอ (Screen Time)
- สร้างสิ่งแวดล้อมที่เอื้อต่อสุขภาพ เช่น มีสวนสาธารณะ อาหารสุขภาพราคาถูก
- สื่อสารเรื่องสุขภาพในเชิงบวก ไม่ Body Shaming
สรุป
โรคอ้วนเป็นเรื่องใหญ่กว่าที่คิด เพราะมันไม่เพียงกระทบต่อรูปร่าง แต่ยังเป็นจุดเริ่มต้นของโรคร้ายหลายชนิดในร่างกายและจิตใจ การตระหนักรู้และลงมือเปลี่ยนแปลงตั้งแต่วันนี้ คือกุญแจสำคัญสู่สุขภาพดีระยะยาว ทั้งในระดับบุคคล ครอบครัว และสังคมโดยรวม